ตำนานเสื้อบอล หมายเลข 10

ตำนานเสื้อบอล

“เปาโล ดิบาล่า” เด็กหนุ่มดาวรุ่งสายเลือด อินทรีฟ้าขาว อาร์เจนติน่า ได้รับสืบทายาท ตำนานเสื้อบอล เบอร์ 10 แห่งถิ่น “ม้าลาย” ยูเวนตุส  แทนที่ ป็อกบา ที่ได้ย้ายจากสโมสร “ม้าลาย” ยูเวนตุส ไป หลงหลุมผีแดง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ซึ่ง เสื้อหมายเลข 10 ของ สโมสร ยูเวนตุส โดยก่อนหน้านี้นั้นตำนานลูกหนังอย่าง โรแบร์โต บาจโจ, มิเชล พลาตินี, เลียม เบรดี, โอมาร์ ซิวอรี และตำนานที่แฟนๆ “เบียงโคเนรี” หลงรักและให้เป็นนักฟุตบอลอันดับ 1 ของสโมสรอย่าง “อเล็กซานโด เดลปิเอโร่”

ก่อนหน้าที่ดิบาล่าจะตัดสินใจสวมใส่เสื้อหมายเลข 10 นักเตะวัย 23 ได้เคยปฏิเสธอย่างชัดเจนมาตลอดว่า เขาจะไม่ใส่เสื้อหมายเลข 10 ให้ยูเวนตุส เพราะเสื้อหมายเลข 10 นั้น ได้เป็นหมายเลขตำนานสโมสร ม้าลาย ยูเวนตุส เขาจึงไม่คิดว่าตนเองในเวลานั้นสมควรที่จะใส่เสื้อหมายเลขดังกล่าว

ซึ่งการที่เขาได้ตัดสินใจที่จะสวมเสื้อหมายเลขที่เป็นตำนาน ของสโมสร เจ้าม้าลาย ยูเวนตุส มันก็เท่ากับว่า เขากำลังที่จะเดินตามรอยเส้นทางของ ตำนานแห่งกรุงโรม เบียงโคเนรี อย่าง “อเล็กซานโด เดล ปิเอโร่” ที่ได้สร้างความสำเร็จให้แก่สโมสรอย่างมากมาย ครองสถิติสูงสุดของสโมสร ไม่ว่าจะเป็น ทำประตูสูงสุด 272 ประตู ลงสนามรับใช้ทีมมากที่สุด 629 นัด พาม้าลาย ได้แชมป์ เซเรียอา 7 สมัย อิตาลี ซุปเปอร์คัพ 4 สมัย และ ยูฟ่า แชมป์เปี้ยนลีก 1 สมัย

ในเวลาปัจจุบันนี้ หมายเลข 10 ของสโมสร ม้าลาย ยูเวนตุส นั้นคือ “เปาโล ดิบาล่า” หลังจากที่เขาได้สวมใส่เสื้อหมายเลข 10 ปัจจุบันนี้  ซัดไปแล้ว 10 ประตู จากการลงสนาม 6 เกม ทำให้ ยูเวนตุส ชนะทุกนัดที่ลงสนาม นำเป็นจ่าฝูงของ “กัลโช่ เซเรียอา”  และตัวของ “ดีบาล่า”  เองก็เป็นดาวยิงอันดับ 1 ของยอดกองหน้าในลีกยุโรปอยู่ในเวลานี้ จากสถิติยิง 1 ประตู ทุกๆ 47 นาที หรือ ใน 1 การแข่งขัน ที่ ดิบาล่า ได้ใช้เวลาอยู่ในสนามครบ 90 นาที เขาจะต้องมีการทำประตูคู่แข่งถึง 2 ประตู

ตำนานวงการฟุตบอล

มาไม่ไว แต่ไปเร็วจัง ตอน 3 กว่าจะสั่งสมประสบการณ์ ในวงการลูกหนัง จนได้ก้าวขึ้นมานั่งแท่นเป็นกุญซือให้กับสโมสร  ในลีกต่าง ๆ มันไม่ใช่เรื่องง่าย บ้างคนอยู่ยาวจนเป็น ตำนานวงการฟุตบอล แต่บางคนก็ได้มีชื่อเป็นตำนานเหมือนกัน แต่แบบมาไว ไปไว

เดฟ บาสเซ็ตต์ / สโมสร คริสตัล พาเลซ / ปี 1984 ( 4 วัน )

ช่วงระยะเวลา 4 วัน ที่เป็นช่องว่างก่อนเซ็นสัญญา เลยทำให้ เดฟ บาสเซ็ตต์ เปลี่ยนใจหนีไปซบทีม วิมเบิลดันแทน แลดูการขึ้นแท่นกุนซือ เป็นเหมือนเรื่องตลกของ บาสเซ็ตต์ อ้าวเฮ้ย !!! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้

มาร์ติน ลิ้ง / สโมสร เคมบริดจ์ ยูไนเต็ด / ปี 2009 ( 9 วัน )

มาร์ติน ลิ้ง ได้งานขึ้นแท่นกุนซือ เนื่องจากคนเก่า ไม่ค่อยกินเส้นกับคนระดับประธานสโมสร เลยขอตัวออกไป  โดยมีโอกาสคุมทีมอยู่ 9 วัน แต่ภายหลังจากประธานสโมสร คนเดิมออกไป มาร์ติน ลิ้ง ก็ถูกดึงตัวมาเป็นกุนซืออีกครั้ง  โดยคราวนี้ได้คุมทีมไป 87 นัด

เควิน คูลลิส / สโมสร สวอนซี ซิตี้ / ปี 1996 ( 8 วัน )

เควิน คูลลิส ได้เข้ามาคุม สวอนซี ได้เพียงแค่ 2 นัด เป็นเวลา 1 สัปดาห์ กับอีก 1 วัน โดยไม่ได้รับการยืนยันว่า เควิน คูลลิส โดนปลดจากตำแหน่ง หรือลาออกเอง ยังไม่มีใครยืนยัน หรือให้คำตอบได้

เลรอย โรซีเนียร์ / สโมสร ทอร์คีย์ ยูไนเต็ด / ปี 2007 ( 10 นาที )

แทบไม่อยากเชื่อว่า เลรอย โรซีเนียร์ ได้ขึ้นแท่นเป็นกุนซืออยู่ 600 วินาที หรือ เพียงแค่ 10 นาทีเท่านั้น ก็โดนปลดออกจากตำแหน่ง โดนกลุ่มนายทุนใหม่ที่เอาคนของตัวเอง เข้ามาทำงานแทน ถือว่าเป็นสถิติการใช้ชีวิตเป็นกุนซือ ที่เร็วที่สุดในโลกเลยก็ว่าได้

สโมสรบอลยักษ์ใหญ่ พรีเมียร์ลีก

2 สโมสรบอลยักษ์ใหญ่ แห่งเวทีพรีเมียร์ลีกอังกฤษ ก่อนที่ฤดูกาล 2017-2018 จะเปิดฉากขึ้นนั้น ทั้ง แมนยูและเชลซี ต้องการผู้เล่นในตำแหน่งศูนย์หน้าตัวเป้าแก่สโมสร โดยแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้องการตัว “โมราต้า” เป็นเป้าหมายหลัก แต่ไม่สามารถตกลงสัญญากับ เรอัล มาดริด ได้สำเร็จจนสุดท้าย แผนดึงตัวโมราต้าก็ต้องล้มเลิกไป และหันไปคว้าตัวลูกากูจากสโมสรเอฟเวอร์ตันมาแทน

ส่วนโมราต้านั้นได้กลับมาร่วมงานกับอดีตนายเก่าอย่าง “คอนเต้” ผู้จัดการทีมเชลซี  ซึ่งทั้งคู่เคยร่วมงานกันมาสมัยตอนอยู่กับสโมสรยูเวนตุส ซึ่งอันที่จริงแล้ว คอนเต้ มีแผนที่จะดึงลูกากูมาทดแทนตำแหน่งของ ดิเอโก้ คอสต้า ที่คอนเต้นั้นได้ส่งข้อความไปบอกกับคอสต้าว่า “ในฤดูกาลที่กำลังจะเปิดขึ้น คุณไม่ได้อยู่ในแผนการทำทีมของผม” เชลซีจึงได้มุ่งมั่นที่จะถึงศูนย์หน้าของท็อฟฟี่สีน้ำเงินมาให้ได้ แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จึงได้ตัว โมราต้า มาแทน โดยค่าตัวในการย้ายสโมสรของ 2 ศูนย์หน้าสลับถิ่นลงเอ่ยอยู่ที่

โรเมลู ลูกากู : เชลซี ยืนข้อเสนอซื้อตัว แต่มาลงเอยที่ แมนยูฯไนเต็ด : 75 ล้านปอนด์

อัลวาโร่ โมราต้า : แมนยูฯไนเต็ด ยืนข้อเสนอซื้อตัว แต่มาลงเอยที่ เชลซี : 70 ล้านปอนด์

ก่อนหน้านี้ มีเหล่านักวิเคราะห์บอลและสื่อข่าวแต่ละประเทศ ได้ออกมาทำการเปรียบเทียบฟอร์มของทั้ง 2 คน และโมราต้านั้นถูกมองว่า จะไม่ประสบความสำเร็จเท่ากับลูกากูในการเล่นที่อังกฤษบนเวทีพรีเมียร์ลีก แต่ในเวลานี้ที่ ฟุตบอลพรีเมียร์ลีกได้เดินทางมาถึง สัปดาห์ที่ 6 จาก 38 สัปดาห์  ทั้งคู่โชว์ฟอร์มได้สมกับค่าตัวและก็คงไม่มีใครสามารถที่จะพูดได้ว่าระหว่าง ลูกากูกับโมราต้า ทั้ง2คนนี้ใครเก่งกว่ากัน เพราะทั้งคู่ ลงเล่นไป 6 นัด ทำได้ 6 ประตูเท่ากันทั้งคู่ นำเป็นดาวซัลโวร่วมอยู่ในขณะนี้

โปรแกรมบอลโลกน่าจดจำ ในพรีเมียร์ลีก

หนึ่งในโปรแกรมฟุตบอลโลกที่น่าจดจำ ช่วงเวลาที่สำคัญบีบคั้นสถานการณ์หนึ่งเมื่อผลบอลออกมาเสมอแน่นอนต้องมีช่วงทดเวลาบาดเจ็บเพื่อตั้งสินกันในเวลาสุดท้าย นัดเป็นเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดใน พรีเมียร์ลีก มีผลต่อการคว้าแชมป์เลยก็ว่าได้

ล่าสุด ทอม เคลฟเวอร์ลี่ กองกลาง วัตฟอร์ด เพิ่งจะกลายเป็นฮีโร่ของเหล่าแฟนบอลในสนาม หลังทำประตูชัยในนาทีที่ 92 ให้ต้นสังกัดเปิดบ้านเฉือนชนะ อาร์เซน่อล 2-1 ในศึก พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ตุลาคม ที่ผ่านมา ยังมีประตูชัยช่วงสุดท้ายเกิดขึ้นอีกมากมายวันนี้เราขอคัดมาให้ชมคร่าวๆมีช็อตไหนบ้าง

แมนฯ ซิตี้ 3 – 2 ควีนส์ปาร์ค ปี 2012
เรือใบสีฟ้า ต้องการชนะเพื่อคว้าแชมป์รายการนี้ และเป็น เซร์คิโอ อเกวโร่ ช่วยจัดการในช่วงทดเจ็บ ส่งผลให้ ปีศาจแดง คู่ปรับร่วมเมืองต้องช้ำจำไปในที่สุด
ลิเวอร์พูล 4 – 3 นิวคาสเซิ่ล ปี 1996

หนึ่งในเกมที่ดีที่สุดในบอลโลกนัดประวัติศาสตร์ พรีเมียร์ลีก โดยที่ นิวคาสเซิ่ล เกือบจะชนะสนามในบ้านตัวเองแล้วแท้ๆ กลับต้องมาโดน คอลลีมอร์ ซัดทดเจ็บ พร้อมทะลายความหวังในการลุ้นแชมป์ของ ทัพสาลิกาดง หลุดลอยออกไปด้วย

แมนฯ ยูไนเต็ด 4 – 3 แมนฯ ซิตี้ ปี 2009

เกมดาร์บี้แมตช์ทุ่กคนรอคอย เหมือนการแข่งขันจะจบลงที่ผลบอลเสมอกัน 3-3 อยู่แล้วเชียวแต่ ไมเคิ่ล โอเว่น กลับมายิงคว้าชัยให้ ปีศาจแดง ได้ในนาทีที่ 96

อาร์เซน่อล 4 – 4 สเปอร์ส ปี 2008

ปีใหญ่ อาร์เซน่อล นำอยู่ 4-2 ก่อนเข้าสู่นาทีสุดท้าย เจอร์เมน จีนาส จะยิงไล่ให้ สเปอร์ส ตามมาเป็น 3-4 และเมื่อเข้าสู่ทดเจ็บ ารอน เลนน่อน ก็มายิงตีผลบอลตีเสมอได้อย่างเหลือเชื่อ

ปรับตารางบอลแข้งไทย

ประเทศเรามีการ ปรับตารางบอลแข้งไทย นโนบาลส่งเสริมกีฬาชนิดนี้อย่างเต็มที่ การกำหนดแนวทางตัวแทนอย่างสโสร บุรีรัมย์, เมืองทอง และเชียงราย ลุยสู้ศึก เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก รอบแบ่งกลุ่ม

นโยบายนี้ถูกกำหนดให้ทีมแข้งไทยได้มีโอกาสเข้าไปโลดแล่นบนเวทีสากลมากยิ่งขึ้นเราคงได้ดูบอลไทยไปไกลกว่าที่คิดทั้งนี้เมื่อฤดูกาล 2017 ที่ผ่านมา

เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด สร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ผ่านเข้าสู่รอบน็อคเอ้าท์ด้วยการจบอันดับ 2 ในรอบแบ่งกลุ่มอันประกอบไปด้วย คาชิม่า แอนท์เลอร์ส จากญี่ปุ่น, อุลซาน ฮุนได จากเกาหลีใต้ และ บริสเบน รอร์ จากออสเตรเลีย ก่อนจะพ่ายต่อ คาวาซากิ ฟรอนตาเล่ ในรอบ 16 ทีมสุดท้าย มีการปรับเปลี่ยนโปรแกรมบอลแข่งขันฟุตบอลภายในประเทศ เพื่อเอื้อต่อการทำผลงานใน เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก  ทั้งนี้ทั้งนั้น จะมีการหารือกับสโมสร และรอตารางการแข่งขันของทางเอเอฟซีให้ออกมาชัดเจนเสียก่อน แล้วจึงค่อยมีการสรุปให้เหมาะสมที่สุด โดยจะทำอย่างยุติธรรม และไม่กระทบกับสโมสรอื่นๆ มากเกินไปซึ่งทางสมาคมฯ มีความตั้งใจที่จะรับฟัง และพยายามอำนวยความสะดวกให้สโมสร เพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับฟุตบอลไทยให้ดีที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ สำหรับในฤดูกาลหน้า สโมสรจากไทยได้สิทธิ์ไปเล่น เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก 3 ทีมคือ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และเชียงราย ยูไนเต็ด โดย “ปราสาทสายฟ้า” ผ่านเข้าไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มโดยอัตโนมัติ ส่วน “กิเลนผยอง” และ “กว่างโซ้งมหาภัย” จะเข้าไปเล่นในรอบคัดเลือก รอบที่ 2 ในวันที่ 23 มกราคม 2018 ต่อไป

บทความเเนะนำวันนี้